เคยชินแบบผิดๆ ที่นำไปสู่โรค 'หมอนรองกระดูกคอเสื่อม'

พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เราทำจนเคยชิน แต่ไม่รู้ว่ามันส่งผลเสียต่อกระดูกคอในระยะยาว เช่น การก้มดูมือถือนานๆ การนั่งทำงานผิดท่า หรือนอนหมอนสูงเกินไป สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่เป็นอะไรตอนแรก แต่ถ้าทำทุกวันเป็นเวลานาน จะเพิ่มแรงกดและความเครียดที่หมอนรองกระดูกคอ จนเกิดหมอนรองกระดูกคอเสื่อมได้

ลองคิดง่ายๆ ว่าหมอนรองกระดูกคอเป็นเหมือนฟองน้ำที่อยู่ระหว่างกระดูก ถ้าเรากดหรือบีบมันบ่อยๆ เช่น นั่งคอเอียงตลอดเวลา ฟองน้ำนี้ก็จะสึกหรอ เสื่อมสภาพ หรือบางครั้งอาจเกิดการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้ปวดคอ ชา หรือปวดร้าวไปที่แขนได้

"หมอนรองกระดูกคอเสื่อม" เป็นภาวะที่หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา แต่ถ้าหากเราทำพฤติกรรมที่หักโหมมากเกินไป ก็จะเร่งเวลาให้เกิดโรคเร็วและถึงขั้นร้ายแรงได้

สัญญาณเตือน...หมอนรองกระดูกคอเสื่อม

• ปวดคอหรือหลังต้นคอเรื้อรัง รู้สึกตึงหรือปวดโดยเฉพาะเมื่อก้ม-เงยคอนานๆ

• อาการปวดร้าว ปวดลามจากคอไปถึงไหล่ แขน หรือมือ โดยเฉพาะข้างที่ใช้งานหนัก

• ชาและอ่อนแรง ชาหรือรู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนแรงบริเวณแขนและมือ อาจจับของหลุดมือง่ายขึ้น

• เคลื่อนไหวคอยากลำบาก การหมุนหรือก้มเงยศีรษะทำได้ลำบากหรือมีเสียงดัง "กรอบแกรบ"

• ปวดศีรษะหรือเวียนหัว เนื่องจากเส้นประสาทถูกกดทับ ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวหรือเวียนหัวร่วมด้วย

ตัวอย่างพฤติกรรมผิดๆ ที่เร่งให้หมอนรองกระดูกคอเสื่อม

1. ก้มหน้าดูโทรศัพท์นานๆท่านี้ทำให้คอต้องรับน้ำหนักศีรษะเพิ่มขึ้นหลายเท่า (น้ำหนักศีรษะประมาณ 4-5 กิโลกรัม) และถ้าก้มมาก น้ำหนักที่กดลงไปยิ่งเพิ่ม ทำให้หมอนรองกระดูกคอเสื่อมเร็ว

2. นั่งทำงานหน้าคอมผิดท่า ถ้าเก้าอี้สูงไป จอคอมต่ำไป หรือไม่ปรับโต๊ะให้เหมาะสม คอจะต้องก้มเงยผิดธรรมชาติ ทำให้กระดูกคอรับแรงเกินไป

3. นั่งทำงานแบบไม่ขยับตัวนานเกินไป การนั่งอยู่ในท่าเดิมต่อเนื่องนานๆ เช่น หน้าคอมพิวเตอร์ ทำให้คอและหลังอยู่ในตำแหน่งที่ตึงเครียด ปวดเมื่อย

4. นอนหมอนสูงหรือนอนผิดท่าหมอนสูงเกินไปทำให้คอพับหรืออยู่ในท่าบิดเบี้ยวตลอดคืน เป็นสาเหตุให้กระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณคอเครียดสะสม

5. ถือของหนักแบบผิดท่า เช่น การสะพายกระเป๋าหนักข้างเดียว หรือใช้ไหล่ช่วยพยุงโทรศัพท์ขณะคุย ทำให้กระดูกคอบิดและรับน้ำหนักผิดจุด

ทำอย่างไรให้ไม่เป็น วิธีดูแลและป้องกันหมอนรองกระดูกคอเสื่อม

1. ปรับพฤติกรรม ลองเงยหน้าจากมือถือทุกๆ 15-20 นาที และจัดโต๊ะและเก้าอี้ทำงานให้ถูก เลี่ยงการก้มหรือยื่นคอ

2. ออกกำลังกาย เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและหลัง เช่น การหมุนคอเบาๆ หรือโยคะ

3. ใช้หมอนที่ตรงกับสรีระ เลือกหมอนที่รองรับศีรษะและคอให้อยู่ในแนวตรง เช่น หมอนยางพาราเพื่อสุขภาพ

4. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ถ้าจำเป็นต้องยก ควรใช้ทั้งสองมือและท่าที่ถูกต้อง

| ท่านั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง

ปรับพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ ลดโอกาสคอเสื่อมก่อนวัย แถมยังช่วยให้ใช้ชีวิตได้สบายขึ้นในอนาคต ช่วงแรกๆอาจจะฝืนนิดหน่อย จะรู้สึกเมื่อย หากทำนานๆร่างกาย กล้ามเนื้อต่างๆจะปรับได้ ทำให้ไม่เมื่อยเหมือนช่วงแรกๆที่ฝึก แถมยังบุคลิกดีอีกด้วย

Leanova เราสนับสนุนให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกช่วงเวลาและได้ใช้ชีวิตในสิ่งที่คุณต้องการ

ขอขอบคุณที่มา : โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง รพ เอส สไปน์ (https://www.s-spinehospital.com/)